ปัจจุบัน สปป. ลาวมีโรงงานอุตสาหกรรมและหัตถกรรม 8,475 แห่ง แบ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ 684 แห่ง ขนาดกลาง 1,025 แห่ง ขนาดเล็ก 6,766 แห่ง และขนาดเล็กแบบครัวเรือน 19,522 แห่ง ในปี 2563 สามารถ สร้างงานให้แก่ประชาชนจำนวน 161,584 คน ประกอบด้วยแรงงานในโรงงานขนาดใหญ่ 65,041 คน ขนาดกลาง 25,930 คน ขนาดเล็ก 33,358 คน และขนาดเล็กแบบครัวเรือน 37,255 คน
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2563 นาย Ji Yong Quan ผู้อำนวยการบริษัท Vientiane Kunpeng Steel จำกัด และบริษัท Khounkham Steel Industry จำกัด ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า บริษัทดังกล่าวได้ส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นเป็นครั้งแรกจำนวน 300 ตัน ไปกรุงพนมเปญ กัมพูชา ผ่านด่านสากลหนองนกเขียน แขวงจำปาสัก
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 นายบัวไล พานุวง รักษาการหัวหน้าห้องการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว สปป. ลาว และนาย Zhou Yao ผู้อำนวยการบริษัท Amazing Lao Sole จำกัด ได้ลงนาม MoU ว่าด้วยความร่วมมือในการก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว โดยมี ศ.ดร. กิแก้ว ไขคำพิทูน รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวฯ พร้อมด้วยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2518 (วันสถาปนา สปป. ลาว) เป็นต้นมา โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ได้รับการพัฒนาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม ขนส่ง ไปรษณีย์ และก่อสร้าง (ปัจจุบันกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง) ปัจจุบันมีถนนที่ตัดเข้าถึงทุกเมืองและแขวงทั่วประเทศ และมีก่อสร้างและบำรุงรักษาทางหลวงแห่งชาติ เช่น ถนนหมายเลข 13 เหนือ และ 13 ใต้ ที่เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมโยงภาคเหนือไปยังภาคใต้ของ สปป. ลาว ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และการสัญจรภายใน สปป. ลาวและเชื่อมโยงไปยังประเทศใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันโครงข่ายเส้นทางของ สปป. ลาว มีระยะทางทั้งสิ้น 58,255 กม. ประกอบด้วยทางลาดยางใน 148 เมือง เพิ่มขึ้นร้อยละ 687 หรือประมาณ 50,855 กม. เมื่อเทียบกับปี 2518 ที่มีเส้นทางทั้งหมด 7,400 กม. มีสะพานทั้งหมด 2,819 แห่ง ประกอบด้วยสะพานคอนกรีต 1,113 แห่ง และที่เหลือเป็นสะพานเหล็กและไม้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 443 หรือประมาณ 2,300 แห่ง เมื่อเทียบกับปี 2529 ซึ่งมีสะพานเพียง 519 แห่ง โดยสะพานที่สำคัญ ได้แก่ สะพานสีทอง สะพานยูริกาการิน (สะพานปากกะดิง) สะพานน้ำเทิน สะพานเซโดนที่ปากเซ สะพานท่าง่อน สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย – เวียงจันทน์) สะพานข้ามแม่น้ำโขงปากเซ สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) และสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 (เชียงราย – บ่อแก้ว) นอกจากนี้ ยังมีสะพานที่สำคัญหลายแห่งตามถนนหมายเลข 13 2 4 7 8 9 12 15 และ 18B
ดร. คำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป. ลาว ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับ ผลการดำเนินงานด้านพลังงานและเหมืองแร่ในช่วง 45 ปีที่ผ่านมาว่า ในช่วงก่อนปี 2518 การลงทุนและการพัฒนาด้านพลังงานใน สปป. ลาวมีไม่มากเท่าที่ควร มีเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่เพียง 1 แห่ง คือ เขื่อนไฟฟ้าน้ำงึม 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ เขื่อนไฟฟ้าขนาดเล็ก 2 แห่ง คือ เขื่อนน้ำดง แขวงหลวงพระบาง มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1 เมกะวัตต์ และเขื่อนเซละบำ แขวงจำปาสัก มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1 เมกะวัตต์ และมีเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันสำหรับในเมืองใหญ่จำนวนหนึ่ง ขณะนั้น สปป. ลาวมีไฟฟ้าใช้ใน 5 เมืองใหญ่ ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง คำม่วน สะหวันนะเขต และจำปาสัก 19,000 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 10 ของประชาชนทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 ดร. ทันสะไหม กมมะสิด รัฐมนตรีกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และ การสื่อสาร สปป. ลาว รายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการพัฒนาด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม และ การสื่อสารของ สปป. ลาว ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2554 กระทรวงไปรษณีย์ฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ปี 2573 ซึ่งมุ่งเน้นการยกระดับงานด้านไปรษณีย์ฯ ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ทันสมัยเพื่อเชื่อมโยงกับภูมิภาคและ สากล โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ผลการดำเนินงานด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร ของ สปป. ลาวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดังนี้
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 ดร. บุนทอง จิดมะนี กรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรค คณะเลขาธิการศูนย์กลางพรรค รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกวดกาศูนย์กลางพรรค ประธานองค์การกวดการัฐบาล และหัวหน้าองค์การต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง สปป. ลาว ในฐานะหัวหน้าคณะชี้นำโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ลาว – จีน เป็นประธานการประชุมคณะชี้นำโครงการก่อสร้างทางรถไฟลาว – จีน ครั้งที่ 9 โดยมี ดร. บุนจัน สินทะวง รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป. ลาว ในฐานะรองหัวหน้าคณะชี้นำฯ รองเจ้าแขวงแขวง ที่เส้นทางรถไฟผ่าน และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2563 นางปานี พวงเพ็ด รองผู้อำนวยการบริษัท ปิโตรเคมีลาว จำกัด ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในเขตพัฒนากวมลวมไชเชดถา ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2557 บนพื้นที่ 280,000 ตร.ม. เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท China Yunnan Dongyan Industrial จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 75 รัฐวิสาหกิจน้ำมันเชื้อไฟลาว ถือหุ้นร้อยละ 20 และบริษัท Lao - China Investment จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 5 รวมมูลค่าการลงทุน 179 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเข้าวัตถุดิบส่วนใหญ่จากสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการกลั่นแล้วจะได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันประมาณ 1 ล้านตันต่อปี ประกอบด้วยน้ำมันเบนซินประมาณ 2.38 แสนตัน หรือ 300 ล้านลิตร น้ำมันดีเซลประมาณ 3.8 แสนตัน หรือ 450 ล้านลิตร แก๊สหุงต้มประมาณ 15,200 ตัน และสารเบนซินประมาณ 10,600 ตัน
เว็บไซต์กระทรวงการคลังของจีนลงการให้สัมภาษณ์ของนายหลิว คุน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2563 ว่าจีนครองอันดับหนึ่งในกลุ่มประเทศ G20 ด้านปริมาณการเลื่อนชำระหนี้ภายใต้แผนริเริ่มผัดผ่อนการชำระหนี้สิน (Debt Service Suspension Initiative) สำหรับกลุ่มประเทศยากจนที่สุด
ศูนย์สถิติแห่งชาติ กระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. 2563 ของ สปป. ลาวลดลงจากเดือน ก.ย. 2563 เล็กน้อยมาอยู่ในระดับติดลบร้อยละ 0.24 และเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.63 เพิ่มขึ้นต่ำกว่าเดือน ก.ย. 2563 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.63 เนื่องจากราคาสินค้าและบริการ ในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ปรับตัวลดลงติดลบร้อยละ 0.5 เนื่องจากราคาข้าวสารในบางแขวง มีแนวโน้มลดลง รวมทั้งราคาผักและผลไม้ลดลง นอกจากนี้ ราคาสินค้าอื่น ๆ ปรับตัวลดลงเช่นกัน ได้แก่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ 2.98 เชื้อเพลิงหุงต้มติดลบร้อยละ 1.11 และทองคำรูปพรรณติดลบร้อยละ 0.47 ปัจจัยที่ทำให้ราคาสินค้าบางประเภทปรับตัวลดลงเนื่องจากมีผลผลิตทางการเกษตรเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ กอปรกับ ราคาน้ำมันและทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย